ถามแพทย์

  • ประจำเดือนไม่มาและเลือดออกผิดปกติ หลังใช้ยาคุมฉุกเฉิน เกิดจากอะไร

  •  เอก
    สมาชิก
    รอบเดือนมาต้นเดือนวันนที่ 2 พฤษภา มีเพศสัมพันธ์วันที่29พฤษภา และเช้าวันที่30พฤษภา ได้กินยาคุมฉุกเฉินในวันที่30พฤษภา ต่อมาวันที่6มิถุนา มีประจำเดือน คาดว่าเป็นเลือดประจำเดือน เพราะมีอาการปวดท้องหนัก ท้องเสีย เลือดไหลมาก เหมือนอาการปวดท้องเมนส์ปกติที่เคยเป็น แล้วมีการผ่าไฟแดงในคืนวันที่8มิถุนา ไม่ได้ใส่ถุงแตกใน ประจำเดือนหมดวันที่9มิถุนา ในวันที่10มิถุนามีเพศสัมพันธ์อีกครั้ง ไม่ได้ป้องกันไม่แตก ได้กินยาคุมฉุกเฉินอีกครั้งวันที่12มิถุนา ต่อมาวันที่18มิถุนา มีเลือดกะปริบกะปรอยสีน้ำตาลจนชมพู วันต่อมาเป็นสีเหมือนประจำเดือนมาประมาณ3-4วัน แต่ไม่มีอาการปวดท้องแต่อย่างใด และตอนนี้ประจำเดือนยังไม่มาเลยค่ะ ก่อนหน้านี้ช่วงต้นเดือนใหม่มีอาการปวดเต้านมและท้องเสีย คิดว่าประจำเดือนจะมา แต่ก็ไม่มาและอาการต่างๆก็หายไป เครียดมากเลยค่ะกลัวจะท้อง หรือมีสาเหตุมาจากอะไรอีกไหมคะ
    เอก  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ Kittichai Changthong

    ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินคือการรับประทานยาคุมกำเนิดที่มีขนาดฮอร์โมนเพศหญิงในปริมาณที่สูงหลังการมีเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ จะได้ผลดีที่สุดเมื่อรับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ถ้ากินเลยจากนี้ ประสิทธิภาพจะได้ไม่ถึงตามที่กล่าวกันไว้คือประมาณ  85-95% 

    ผลข้างเคียงหลังกินยาคุมฉุกเฉินอาจทำให้มีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด หรือทำให้ประจำเดือนมาคลาดเคลื่อนไปจากปกติ คัดตึงเต้านม คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะที่มักค่อยๆดีขึ้นได้เอง

    จากเหตุการณ์ดังกล่าวมา อาจเป็นเลือดออกที่เป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินได้ แนะนำสังเกตอาการ หากเลือดออกมากขึ้นเรื่อยๆ ปวดท้องน้อยมาก ประจำเดือนมาช้ากว่า 35 วัน ควรพบสูตินรีแพทย์

    ถ้าจะมีเพศสัมพันธ์ควรจะป้องกันไว้ก่อนเช่นใช้ยาคุมแบบแผง หรือฉีดยาคุม หรือฝังยาคุม หรือป้องกันขณะมีเพศสัมพันธ์ด้วยการใช้ถุงยางอนามัยค่ะ ไม่แนะนำให้ใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆเพราะประสิทธิภาพต่ำกว่าวิธีอื่นและทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้มาก