ถามแพทย์

  • ทานยาคุมกำเนิดมา 6 ปีแล้ว หยุดทานยาเดือน เม.ย. ประจำเดือนยังไม่มา มีเลือดสีน้ำตาลออกมา ทานยาคุมกำเนิดมา 6 ปีแล้ว หยุดทานยาเดือน เม.ย. ประจำเดือนยังไม่มา 1 ก.ย.มีเลือดสีน้ำตาลออกมา คือเลือดอะไร

  • คือทานยาคุมมาประมาณแบบ 28 เม็ด มา6ปีกว่าอ่ะค่ะ แร้วหยุดยาช่วงเดือนเมษา หลังจากนั้นประจำเดือนไม่มาค่ะ(มีเพศสัมพันธ์กับแฟนแบบปล่อยนอก) จนมาถึงวันที่1กันยา61 มีเหมือนเลือดสีน้ำตาลออกมาแค่เปื้อนกางเกงในแต่ไม่มีกลิ่นอยากทราบว่าคือเลือดประจำเดือนหรือเลือดอ่ะไรไหมค่ะ ตอบหน่อยน่ะค่ะ เครียดมาเรยค่ะตอนนี้

    สวัสดีค่ะ คุณ คน เมื่อคืน,

                           โดยปกติเมื่อหยุดทานยาคุมกำเนิด การทำงานของรังไข่และการตกไข่ก็จะกลับมาเป็นปกติภายใน 2-3 สัปดาห์ และประจำเดือนก็จะมาภายใน 4-5 สัปดาห์ แต่ในบางรายก็อาจเร็วหรือช้ากว่านี้ก็ได้ ดังนั้นการที่ประจำเดือนยังไม่มา หลังจากที่หยุดทานยาคุมไปตั้งแต่เดือน เม.ย. อาจเกิดจาก

                           1. การตั้งครรภ์ หากหลังจากที่หยุดทานยา ไม้มีเพศสัมพันธ์ แม้จะใช้วิธีการหลั่งนอก ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นเลือดสีน้ำตาลที่ออกมา จึงอาจเป็นภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ได้ 

                           2. การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ เช่น มีภาวะมีถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ (PCOS) โดยผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะมีรูปร่างอ้วน ผิวมัน มีสิวเยอะ และมีขนดกมากกว่าผู้หญิงทั่วไป    

                           3. มีโรคอ้วน ซึ่งจะไปมีผลกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนเพศที่ปกติได้ 

                           4. มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนเป็นพิษ หรือไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ 

                           5. มีพังผืดเกิดขึ้นในมดลูก จากการเคยมีมดลูกอักเสบ หรือเคยแท้งแล้วได้รับการขูดมดลูก

                           6. มีเนื้องอกของต่อมใต้สมอง แต่จะมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดศีรษะ มองเห็นภาพซ้อน มีน้ำนมไหล เป็นต้น

                           แนะนำให้ลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ หากตรวจไม่พบ แต่ประจำเดือนยังคงไม่มา มีเพียงเลือดสีน้ำตาลออกมา ซึ่งถือเป็นอาการเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ