ถามแพทย์

  • อายุ 21 ปี ตกขาวเกือบเดือน มีกลิ่น ปวดท้องใต้สะดือด้วย เป็นอะไร

  • สวัสดีค่ะ หนูอายุ21ปีค่ะ ตอนนี้หนูมีปันหาตกขาวค่ะหลังจากมีเพศสัมพันครั้งล่าสุดก้อมีตกขาวค่ะ ตอนแรกคิดว่ามันคงเปนช่วงประจำเดือนใกล้มา แต่พอหลังจากประจำเดือนหมดไปตกขาวก็ยังมีและมีสีมีกลิ่น เปนประมาณจะเกือบเดือนแลวค่ะหนูต้องใส่ผ้าอนามัยแผ่นทุกวันเลยค่ะแถมยังมีปวดท้องใต้สะดือเปนวันเว้นวันด้วยค่ะ อยากรุ้ว่าหนูเปนอะไรกันแน่และมีวิธีแก้ยังใงบางค่ะ ขอบคุณค่ะ😥

    สวัสดีค่ะ คุณ ยัยหน้า'า สิว'ววว,

                       อาการมีตกขาวปริมาณมากทุกวัน และมีกลิ่น อาจเกิดจาก

                       1. การอักเสบของช่องคลอดจากเชื้อแบคทีเรีย (bacterial vaginosis) ซึ่งจะทำให้มีตกขาวคล้ายกลิ่นคาวปลา โดยที่ไม่มีอาการคันหรือแสบช่องคลอด และมักจะไม่มีปวดท้องน้อย ปัจจัยที่อาจทำให้เกิด เช่น จากการสวนล้างช่องคลอดบ่อยไป หรือใช้สบู่หรือน้ำยาที่มีความรุนแรง หรือเกิดจากการทานยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อบ่อยๆ การมีเพศสัมพันธ์มากกว่า 1 คน หรือมีการเปลี่ยนคู่นอน หรือมีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ เป็นต้น 

                       2. ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม เป็นต้น ซึ่งจะทำให้มีตกขาวปริมาณมาก มีสีเขียว-เหลือง มีกลิ่นเหม็น และหากเชื้อลามเข้าสู่มดลูก ก็จะทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อยได้

                      แนะนำว่าควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจว่าเกิดจากสาเหตุใด จะได้รับการรักษาที่ตรงกับโรคค่ะ ทั้งนี้ หากฝ่ายชายมีอาการผิดปกติด้วย เช่น ปัสสาวะขัด มีมูกหรือหนองไหลจากท่อปัสสาวะ ปลายอวัยวะเพศอักเสบแดง ก็ควรพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาพร้อมกันด้วยค่ะ