ถามแพทย์

  • ฉีดยาคุมตั้งแต่หลังคลอด ช่วงแรกมีเลือดออกกะปริดกะปรอย ต่อมาไม่มีเลือดไหล แล้วกลับมามีเลือดไหลมา 2 อาทิตย์ เกิดจากอะไร

  •  Thanyares Chooampai
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะมีเรื่องจะปรึกษาค่ะ พอดีหนูฉีดยาคุม แบบ 3 เดือน ค่ะ ตั้งแต่คลอดลูก ตอนนี้ลูก 1 ขวบ 5 เดือนแล้วค่ะ ช่วง 2-3 เดือนแรกมีเลือดออกกระปิดกระปรอยแต่หลังจากนั้นก็ไม่เคยมีเลือดออกอีกเลยจนกระทั้ง เมื่อช่วงวันที่ 5-6. มีเลือไหลออกมา ไหลออกมาตลอดทั้งวัน แต่ไม่เยอะเท่าประจำเดือนน่ะค่ะ ไหลออกมาเรื่อยๆเลยค่ะ แล้วมีอาการปวดท้องเหมือนปวดท้องประจำเดือนด้วย ตอนนี้ประมาณ2 อาทิตย์ได้แล้วค่ะก็ไม่หยุดไหล แต่อาการปวดท้องไม่มีแล้ว อยากทราบว่าเป็นอันตรายหรือร้ายแรงไหมค่ะ แฃ้วเกิดขึ้นจากอะไร

    สวัสดีค่ะ คุณ  Thanyares Chooampai,

                      การฉีดยาคุมกำเนิดชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือน ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย คือการมีเลือดออกกะปริดกะปรอย และเมื่อฉีดต่อเนื่องไปนานๆ มักทำให้ประจำเดือนขาดหายไป เพราะผลของฮอร์โมน จะไปทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกฝ่อบางลง ซึ่งก็ไม่ได้อันตรายแต่อย่างใด

                       สำหรับการมีเลือดออกหลังจากที่หยุดไปนานแล้วนั้น อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงใกล้ครบกำหนดที่จะถึงการฉีดยาคุมเข็มถัดไปได้ เพราะฮอร์โมนที่อาจลดลง ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกมีการเพิ่มความหนาและหลุดลอกออกมาได้ ซึ่งในขณะที่มีเลือดออก ก็อาจทำให้มีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วยได้

                       โดยปกติ หากเลือดที่ออกมีปริมาณไม่มาก ไม่มีปวดท้องน้อยแล้ว และไม่มีตกขาวที่ผิดปกติ ก็อาจยังไม่จำเป็นต้องทำอะไร แต่หากเลือดออกต่อเนื่องนานเกิน 2 สัปดาห์แล้ว หรือเลือดที่ออกมีแนวโน้มออกมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ได้มีปวดท้องน้อย ไม่มีตกขาวที่ผิดปกติ แนะนำว่าควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อพิจารณาทานยาฮอร์โมนรวมหรือทานยาที่ช่วยหยุดการไหลของเลือดค่ะ