ถามแพทย์

  • คันทวารหนัก ทานยาฆ่าพยาธิไปแล้วยังไม่หาย เกิดจากอะไร

  •  Zettanan
    สมาชิก

    สวัสดีครับ ผมมีอาการคันทวารหนัก จึงทานยาถ่ายพยาธิ Fugacar 500 mg 1 เม็ด อาการคันก็ยังไม่หายไป พอผ่านมา 2-3 วัน ผมจึงตัดสินใจพบแพทย์ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด แพทย์ตรวจรอบทวารหนัก และในทวารหนักโดยใช้นิ้วมือของแพทย์เอง ก็ไม่พบสาเหตุ แพทย์จึงสั่งยาฆ่าเชื้อพยาธิมาให้ทาน ปัจจุบันผ่านมาเกือบ 3 สัปดาห์ แต่ยังมีอาการคันอยู่ครับ

    Zettanan  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ Zettanan

    อาการคันทวารหนัก อาจเกิดได้จาก

    -ความอับชื้นของผิวรอบทวารหนัก

    -ใช้สารที่ระคายเคืองต่อผิวเช่น กระดาษทิชชู สบู่ ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม สารดับกลิ่น และ ยาเหน็บทวารหนัก

    -มีโรคผิวหนัง เช่น จากโรคผื่นภูมิแพ้ต่างๆ เช่น โรคผื่นแพ้สัมผัส โรคผื่นภูมิแพ้ผิว หนัง โรคสะเก็ดเงิน โรคผิวหนังอักเสบ

    -มีอุจจาระไหลซึมออกมารอบๆปากทวารหนัก เช่น โรคแผลรอยแยกขอบทวารหนัก โรคฝีคัณฑสูตร ภาวะท้องผูกเรื้อรัง ภาวะกลั้นอุจจาระไม่อยู่

    -การระคายเคืองจากอาหารบางชนิด ซึ่งพบได้ในบางคนที่เนื้อเยื่อรอบปากทวารหนักไวต่ออาหารประเภทนี้ เช่น อาหาร/เครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน เบียร์ นม

    -มีการติดเชื้อในผิวหนังรอบปากทวารหนัก เช่น จากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคพยาธิเส้นด้าย หูด

    ในที่นี้จำเป็นต้องตรวจร่างกายและซักประวัติเพิ่มเติมด้วย แนะนำว่าถ้าได้ยาฆ่าพยาธิมากินแล้วไม่ดีขึ้น ควรกลับไปตรวจซ้ำเพื่อหาสาเหตุอื่นๆที่เป็นไปได้ดังกล่าวไป

    การดูแลตัวเองเบื้องต้น ไม่ไปเกาบริเวณที่คัน เนื่องจากอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและลุกลามของโรค  รับประทานยาแก้คันได้ รักษาความสะอาดบริเวณทวารหนักหลังการขับถ่ายทุกครั้ง ใช้น้ำเปล่าสะอาดล้างได้ และซับให้แห้ง ไม่ใส่เสื้อผ้ารัดและอับชื้น