เทมเป้ อาหารเพื่อสุขภาพและวิธีรับประทานให้ได้ประโยชน์

เทมเป้ (Tempeh) เป็นอาหารที่เริ่มรับความนิยมในกลุ่มคนที่รักสุขภาพ ทำจากการนำถั่วเหลืองไปต้มและหมักกับเชื้อราที่ช่วยย่อยโปรตีนในถั่ว จนเกิดเป็นเส้นใยสีขาวยึดเกาะเมล็ดถั่วเข้าด้วยกันเป็นก้อน โดยเทมเป้เป็นแหล่งของโปรตีนที่สามารถใช้แทนเนื้อสัตว์ในเมนูต่าง ๆ จึงเหมาะกับคนที่รับประทานอาหารมังสวิรัติและอาหารเจ

เทมเป้ที่วางขายทั่วไปจะมีลักษณะเป็นก้อนสี่เหลี่ยมคล้ายเต้าหู้ที่อัดแน่นไปด้วยถั่ว แต่มีเนื้อสัมผัสหนึบกว่าซึ่งสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย บทความนี้จะชวนทุกคนมาทำความรู้จักประโยชน์ของการรับประทานเทมเป้ และวิธีรับประทานให้ดีต่อสุขภาพไปด้วยกัน

เทมเป้ อาหารเพื่อสุขภาพและวิธีรับประทานให้ได้ประโยชน์

ประโยชน์ของเทมเป้

เทมเป้อุดมไปด้วยสารอาหารหลายชนิด และมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านต่าง ๆ ดังนี้

อุดมไปด้วยโปรตีน

ปริมาณโปรตีนที่แนะนำให้ผู้ใหญ่ทั้งชายและหญิงบริโภคต่อวันคือ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม สำหรับผู้ที่รับประทานมังสวิรัติควรได้รับโปรตีนจากถั่วเหลืองในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อทดแทนการได้รับโปรตีนไม่เพียงพอจากการไม่รับประทานเนื้อสัตว์ 

เทมเป้ให้โปรตีนสูงกว่าอาหารที่ทำจากถั่วชนิดอื่น เช่น เต้าหู้ปริมาณ 84 กรัม ให้โปรตีนประมาณ 6 กรัม ขณะที่เทมเป้ที่มีปริมาณเท่ากันให้โปรตีนสูงถึง 15 กรัม จึงเหมาะสำหรับผู้รับประทานมังสวิรัติ และผู้ที่ออกกำลังกายเพราะการรับประทานโปรตีนอย่างเพียงพอจะช่วยเสริมมวลกล้ามเนื้อที่เสียไปจากการออกกำลังกาย 

นอกจากนี้ เทมเป้ที่ทำจากถั่วเหลืองยังมีกรดอะมิโนจำเป็น (Essential Amino Acids) ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นได้เอง และจะได้รับจากการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนอย่างเพียงพอเท่านั้น ซึ่งอาหารที่ทำจากถั่วเหลืองจะให้ครบทั้ง 9 ชนิด ต่างจากธัญพืชอื่น ๆ ที่อาจให้กรดอะมิโนจำเป็นได้ไม่ครบ

ดีต่อหัวใจและช่วยควบคุมน้ำหนัก

เทมเป้ 1 ถ้วยหรือ 166 กรัมประกอบด้วยไขมัน 18 กรัม โดยไขมันส่วนใหญ่ในเทมเป้จะเป็นไขมันไม่อิ่มตัว ทั้งไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน ซึ่งเป็นไขมันดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อันมีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง

นอกจากนี้ เทมเป้ 1 ถ้วยประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตเพียง 13 กรัม และมีโปรตีนสูงที่ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องและยับยั้งความรู้สึกอยากอาหาร ซึ่งอาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก

เป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุ

นอกจากโปรตีนแล้ว การรับประทานเทมเป้ยังให้สารอาหารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่

  • วิตามินบี เช่น ไรโบฟลาวิน (Riboflavin) หรือวิตามินบี 2 ที่มีส่วนช่วยในการสร้างพลังงาน การมองเห็นและบำรุงผิวพรรณ ไนอะซิน (Niacin) หรือวิตามินบี 3 ที่ช่วยเปลี่ยนสารอาหารให้เป็นพลังงาน เสริมการทำงานของสมอง ระบบย่อยอาหาร และผิวพรรณ และวิตามินบี 12 ที่ช่วยมีบทบาทในการสร้างเม็ดเลือดแดง ซึ่งพบมากในเนื้อสัตว์และนม จึงเป็นทางเลือกของคนที่รับประทานมังสวิรัติ 
  • แคลเซียม เทมเป้ 1 ถ้วย หรือ 166 กรัมประกอบด้วยโปรตีนประมาณ 2 ใน 3 ของนมวัวปริมาณ 244 มิลลิตร จึงเป็นแหล่งของแคลเซียมที่เหมาะกับคนที่ไม่ดื่มนมวัว
  • แร่ธาตุต่าง ๆ เช่น สังกะสี ทองแดง ธาตุเหล็ก แมงกานีส และฟอสฟอรัส ซึ่งมีความสำคัญต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย

มีส่วนประกอบของสารไอโซฟลาโวน (Isoflavones)

เทมเป้ประกอบด้วยสารไอโซฟลาโวน ซึ่งพบมากในถั่วเหลืองและอาหารที่ทำจากถั่วเหลือง โดยไอโซฟลาโวนมีส่วนช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอลโดยรวม คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ในเลือด ซึ่งไขมันชนิดไม่ดีเหล่านี้อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ

ไอโซฟลาโวนจัดเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนจากพืช (Phytoestrogen) อาจช่วยบรรเทาอาการร้อนวูบวาบในหญิงวัยหมดประจำเดือนที่มีระดับฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ชะลอความเสื่อมของเซลล์จากอนุมูลอิสระ และอาจช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมาก

เสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร

การรับประทานถั่วและธัญพืชบางชนิดอาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารและมีอาการท้องอืด แต่การรับประทานเทมเป้มักไม่ทำให้เกิดอาการเหล่านี้ จึงอาจเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร เช่น โรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome)

เทมเป้ได้จากการหมักถั่วกับเชื้อรา จึงมีโพรไบโอติกส์ (Probiotics) ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบทางเดินอาหาร และมีพรีไบโอติกส์ (Prebiotics) ซึ่งเป็นใยอาหารชนิดหนึ่งและเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของโพรไบโอติกส์ โดยเทมเป้ 85 กรัมมีใยอาหารสูงถึง 7 กรัม จึงมีส่วนช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ

เทมเป้รับประทานอย่างไร

เทมเป้จะมีทั้งแบบที่ใช้ถั่วเหลืองอย่างเดียว หรือผสมถั่วและธัญพืชอื่น ๆ สามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านขายอาหารเพื่อสุขภาพ มีทั้งรูปแบบกล่อง กระป๋อง เป็นผลิตภัณฑ์แช่แข็ง หรือเลือกทำเทมเป้รับประทานเองที่บ้านก็ได้ เพียงใช้ถั่วหมักกับกล้าเชื้อที่เป็นผงสำหรับหมักเทมเป้สำเร็จรูป หมักไว้ประมาณ 3–4 วัน ก็สามารถนำมารับประทานได้

เทมเป้สามารถนำมาประกอบอาหารแทนเนื้อสัตว์ได้หลายเมนู เช่น นำมาหั่นเป็นชิ้นหมักซอสและย่างแทนสเต็ก นำมาสับแทนเนื้อสัตว์ในสปาเกตตี้และแฮมเบอร์เกอร์ หรือใช้ผัดกะเพรา ยำ และจิ้มน้ำพริก 

เทมเป้ที่ยังไม่เปิดรับประทาน สามารถเก็บได้นาน 1 เดือนในตู้เย็นช่องธรรมดา และเก็บได้นานถึง 1 ปีในช่องแช่แข็ง แต่หากเปิดแล้วควรเก็บในถุงหรือกล่องที่ปิดมิดชิด ซึ่งจะเก็บได้ประมาณ 5 วัน

ข้อควรระวังในการรับประทานเทมเป้

คนทั่วไปสามารถรับประทานเทมเป้ได้อย่างปลอดภัยและไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่คนที่มีภาวะสุขภาพบางอย่าง ไม่ควรรับประทานเทมเป้ เช่น 

  • แพ้ถั่วเหลือง เนื่องจากเทมเป้มีส่วนประกอบหลักคือ ถั่วเหลือง การรับประทานเทมเป้อาจทำให้คนที่แพ้ถั่วเหลืองมีอาการคัน เกิดผื่นลมพิษ ใบหน้าและลำคอบวม หายใจลำบาก หายใจมีเสียงหวีด ปวดท้อง ท้องร่วง คลื่นไส้ อาเจียน และบางคนอาจเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงที่เป็นอันตรายถึงชีวิต
  • ภาวะผิดปกติเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ เพราะเทมเป้มีสารกอยโทรเจน (Goitrogens) ที่อาจยับยั้งการสังเคราะห์ไทรอยด์ฮอร์โมน และลดประสิทธิภาพการดูดซึมยารักษาไทรอยด์

เทมเป้เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร และสารอาหารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จึงจัดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่คนทั่วไปรับประทานได้ และเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ แต่คนที่มีภาวะผิดปกติเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์หรือแพ้อาหาร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานเทมเป้และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากถั่วเหลืองเสมอ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ