หลากวิธีลดริ้วรอย เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ผิว

เมื่ออายุมากขึ้น ริ้วรอยบนผิวหนังก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา ปาก และลำคอ ซึ่งสังเกตเห็นได้ง่ายกว่าจุดอื่น หลายคนจึงพยายามสรรหาวิธีต่าง ๆ นานา เพื่อช่วยลดริ้วรอยและป้องกันปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดริ้วรอย แต่จะมีวิธีไหนที่ช่วยลดริ้วรอยได้จริงบ้าง ?

1851 ลดริ้วรอย rs

ริ้วรอยเกิดจากอะไร ?

ริ้วรอยบนผิวหนังอาจปรากฏให้เห็นเป็นเส้นบาง ๆ หรือเป็นร่องลึก ซึ่งมักเกิดขึ้นตามบริเวณที่สัมผัสแสงแดดบ่อย ๆ เช่น ใบหน้า ลำคอ และมือ เป็นต้น โดยมีสาเหตุมาจากปัจจัยหลายอย่าง ดังนี้

แสงแดด

การเผชิญแสงแดดนับเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร เพราะแสงแดดจะทำลายคอลลาเจนและเส้นใยยืดหยุ่นในชั้นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันใต้ผิวหนัง ส่งผลให้การเชื่อมต่อของเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ อ่อนแอและขาดความยืดหยุ่น จนนำไปสู่การเกิดร่องลึกหรือริ้วรอยเหี่ยวย่นในที่สุด

อายุ

เป็นเรื่องธรรมดาที่ผิวหนังจะยืดหยุ่นน้อยลงและเริ่มเปราะบางเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น เพราะร่างกายที่เสื่อมลงตามวัยจะผลิตน้ำมันธรรมชาติและไขมันในชั้นผิวหนังที่อยู่ลึกลงไปได้ลดลง ผิวจึงหย่อนคล้อยและแห้งกร้านจนปรากฏริ้วรอยที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนกว่าเดิม

บุหรี่และควัน

การสูบบุหรี่ ได้รับควันบุหรี่ หรือมลพิษทางอากาศ อาจเร่งให้เกิดริ้วรอยตามผิวหนังเร็วกว่าปกติ เนื่องจากควันที่สูดดมเข้าไปอาจทำให้เลือดไปเลี้ยงผิวหนังได้น้อยลง

พันธุกรรม

กรรมพันธุ์เป็นตัวกำหนดโครงสร้างและลักษณะผิวของแต่ละคน บางคนจึงเกิดรอยเหี่ยวย่นได้ง่ายกว่าคนอื่น ๆ และอาจพบริ้วรอยในลักษณะคล้ายคลึงกันกับคนในครอบครัวด้วย

การแสดงอารมณ์ทางสีหน้า

สีหน้าท่าทางบางอย่างที่ทำซ้ำ ๆ อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจเป็นเหตุของริ้วรอยเหี่ยวย่นในเวลาต่อมาได้ เช่น การขมวดคิ้ว หรือการยิ้ม เป็นต้น เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวจะทำให้เกิดรอยใต้ผิวหนังเพราะกล้ามเนื้อใบหน้าเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดิมซ้ำ ๆ เมื่อผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นและไม่สามารถดึงตัวกลับเพราะอายุที่มากขึ้น ร่องรอยดังกล่าวจึงปรากฏขึ้นอย่างถาวร

ลดริ้วรอยด้วยวิธีไหนให้ได้ผลดี ?

ในปัจจุบันมีวิธีลบเลือนริ้วรอยให้เลือกใช้มากมายสำหรับคนที่กังวลใจเกี่ยวกับริ้วรอยเหี่ยวย่นตามจุดต่าง ๆ และอยากเรียกคืนความมั่นใจ ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะสมแตกต่างกันไป ดังนี้

การทาครีมลดริ้วรอย

มีงานวิจัยบางส่วนชี้ว่า ครีมที่มีส่วนผสมบางอย่างอาจช่วยลดริ้วรอยได้ ซึ่งก็มีทั้งชนิดที่สั่งจ่ายโดยแพทย์และหาซื้อได้เอง

ตัวอย่างส่วนผสมที่อาจมีคุณสมบัติช่วยลดเลือนริ้วรอย มีดังนี้

  • เรตินอยด์ อยู่ในกลุ่มวิตามินเอ อาจใช้ชื่อว่าเตรทติโนอิน (Tretinoin) หรือเรตินเอ (Retin-A) เป็นตัวยาที่มีการศึกษาหลายชิ้นพบว่าอาจช่วยลดการเสื่อมสภาพของผิวหนังจากความชราภาพได้อย่างเห็นผล เช่น ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ ไม่เรียบเนียน มีริ้วรอย เป็นต้น แต่อาจมีผลข้างเคียงทำให้ผิวแดง แห้ง คัน แสบร้อน รวมทั้งส่งผลให้ผิวไวต่อแสงแดดและผิวไหม้ได้ง่ายขึ้น จึงควรสวมใส่เสื้อผ้าปกปิดผิวหนังให้มิดชิด และทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านในระหว่างที่ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์
  • กรดอัลฟาไฮดรอกซี เป็นกรดผลไม้ที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นบนที่ตายแล้ว ทำให้ริ้วรอยและความเหี่ยวย่นลดน้อยลง โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา ทั้งยังมีงานวิจัยที่พบว่ากรดอัลฟาไฮดรอกซีที่มีความเข้มข้นสูงอาจช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ โดยสารชนิดนี้จัดเป็นส่วนผสมที่ค่อนข้างปลอดภัย และอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น
  • สารต้านอนุมูลอิสระ อาจมีคุณสมบัติป้องกันแสงแดดและช่วยลดริ้วรอยได้เล็กน้อย แต่ก็ควรใช้ครีมกันแดดเพื่อป้องกันแสงแดดด้วย โดยมีตัวอย่างสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจเป็นประโยชน์ต่อการลดริ้วรอย เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีน เป็นต้น
  • ไอดีบีโนน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มเดียวกันกับโคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10) ที่มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งค้นพบว่า การทาสารประกอบชนิดนี้เป็นเวลา 6 สัปดาห์ ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและชุ่มชื้นยิ่งขึ้น รวมทั้งช่วยให้ริ้วรอยต่าง ๆ ลดน้อยลงพอสมควร แต่ก็ไม่ได้เห็นผลอย่างชัดเจนมากนัก
  • โกรทแฟคเตอร์ เป็นสารเคมีธรรมชาติที่ร่างกายผลิตขึ้นในกระบวนการสมานแผลและสร้างคอลลาเจน ครีมที่มีส่วนประกอบของสารชนิดนี้อาจช่วยลดความเสียหายของผิวที่เกิดจากแสงแดดและลดริ้วรอยต่าง ๆ ได้
  • เพนทาเพปไทด์ มีงานวิจัยงานหนึ่งพบว่า เพนทาเพปไทด์อาจช่วยเพิ่มการสร้างคอลลาเจนเมื่อผิวไหม้จากแสงแดด และช่วยให้ริ้วรอยลดน้อยลงได้

อย่างไรก็ตาม ก่อนลองใช้ครีมลดริ้วรอยชนิดใด ควรดูให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์นั้น ๆ มีเครื่องหมาย อย. (องค์การอาหารและยา) กำกับอยู่ และอ่านคำแนะนำในการใช้ให้ละเอียดทุกครั้ง รวมถึงทดลองป้ายครีมบาง ๆ บริเวณท้องแขนสักพัก เพื่อให้แน่ใจว่าไม่เกิดอาการแพ้ ก่อนนำไปทาบนใบหน้าและลำคอ นอกจากนี้ ควรเลือกใช้ครีมที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเองด้วย โดยผู้ที่มีผิวแห้งอาจเลือกครีมที่มีมอยซ์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว ส่วนผู้ที่มีผิวมันก็อาจเลือกครีมสำหรับคนผิวมันโดยเฉพาะ

การใช้วิธีทางการแพทย์เพื่อลดริ้วรอย

มีขั้นตอนทางการแพทย์มากมายที่ให้บริการตามสถานเสริมความงามทั่วไป โดยแต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน หรือบางคนอาจเลือกใช้หลายวิธีควบคู่กันไปเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น แต่เพื่อความปลอดภัย ผู้รับบริการควรเลือกสถานบริการที่น่าเชื่อถือและทำโดยผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพเท่านั้น โดยวิธีการทางการแพทย์ต่าง ๆ ที่อาจช่วยลดริ้วรอยได้ มีดังนี้

  • การผลัดเซลล์ผิวหนัง เป็นการใช้สารบางอย่างที่มีฤทธิ์เป็นกรดทาลงบนบริเวณที่มีริ้วรอย เพื่อขัดผิวหนังชั้นบนสุดให้หลุดลอกออกไป เช่น กรดซาลิไซลิก กรดไตรคลอโรอะเซติก เป็นต้น ซึ่งสารเหล่านี้จะทำให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ช่วยให้ผิวเต่งตึงและดูอ่อนเยาว์ขึ้น แต่อาจมีความเสี่ยงเกิดแผลเป็น หรือผิวหนังบริเวณนั้นอาจเปลี่ยนสีไปได้
  • การฉีดโบทอกซ์ จะช่วยให้กล้ามเนื้อที่เป็นสาเหตุของริ้วรอย โดยเฉพาะบริเวณหน้าผากและรอบดวงตา ผ่อนคลายลงและไม่เกร็งตัว ซึ่งจะช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นและมีริ้วรอยลดลงในที่สุด โดยผลการฉีดโบทอกซ์จะคงอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน  
  • การฉีดฟิลเลอร์ เป็นวิธีลดริ้วรอยด้วยการฉีดไขมัน คอลลาเจน หรือกรดไฮยาลูรอนิกเข้าไปใต้ผิวหนังที่มีรอยเหี่ยวย่น เพื่อให้ผิวเรียบเนียนและเต่งตึงขึ้น
  • การทำเลเซอร์ เป็นการใช้แสงเลเซอร์ยิงกระตุ้นให้ผิวผลิตคอลลาเจน ทั้งนี้ เลเซอร์มีหลากหลายชนิดให้เลือกใช้ ซึ่งแต่ละแบบอาจมีข้อเสียและผลข้างเคียงแตกต่างกันไป เช่น เลเซอร์ชนิดที่ทำให้ผิวลอกอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าผิวจะฟื้นฟู หรืออาจทำให้เกิดแผลเป็น ผิวซีดและคล้ำขึ้น เป็นต้น ดังนั้น เมื่อต้องเลือกใช้วิธีใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์ให้ดีก่อนเสมอ
  • การกรอผิว วิธีนี้คล้ายกับการผลัดเซลล์ผิว โดยแพทย์จะใช้อุปกรณ์สำหรับดูดแบบสุญญากาศควบคู่กับอัญมณีที่ใช้สำหรับขัดผิว เมื่อชั้นผิวหนังเก่าหลุดลอกออกไป ชั้นผิวใหม่จะเรียบเนียนขึ้นและริ้วรอยต่าง ๆ ก็จะดูจางลง แต่มีผลข้างเคียงที่ควรระวังอย่างการเกิดแผลเป็นและสีผิวบริเวณที่รับการกรอผิวอาจเปลี่ยนไปอย่างถาวร
  • การศัลยกรรม การร้อยไหม การยกคิ้ว หรือการทำศัลยกรรมด้วยวิธีอื่น ๆ จะช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ แต่บางรายอาจไม่จำเป็นต้องพึ่งการศัลยกรรม และสามารถใช้วิธีอื่น ๆ ดังข้างต้นที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าหรือฟื้นตัวได้เร็วกว่าได้ อย่างไรก็ตาม หากต้องการทำศัลยกรรมเพื่อยกกระชับผิวหนังจุดต่าง ๆ ควรปรึกษาแพทย์ให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ

เทคนิคป้องกันริ้วรอยและความเหี่ยวย่น

วิธีคงไว้ซึ่งความอ่อนเยาว์ของผิวหนังที่ดีที่สุดควรเริ่มจากการดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควรที่อาจสร้างความกังวลใจตามมาในภายหลัง โดยมีเคล็ดลับที่ทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้

  • สวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด สวมหมวก และแว่นตากันแดด เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด รวมทั้งควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปที่ปกป้องได้ทั้งรังสี UVA และ UVB ทุกครั้งเมื่อต้องออกจากบ้านในเวลากลางวัน
  • ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง เพราะผิวที่แห้งกร้านจะทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นตามมาได้
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้ต่าง ๆ เนื่องจากมีงานวิจัยที่พบว่า วิตามินบางชนิดในอาหารอาจช่วยบำรุงสุขภาพผิวและชะลอการเสื่อมสภาพตามวัยได้
  • ไม่สูบบุหรี่ หรือเลิกสูบบุหรี่ แม้จะสูบบุหรี่อย่างหนักหรือสูบมานานหลายปีก็สามารถฟื้นฟูให้ผิวหนังกลับมามีสุขภาพดีได้ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรด้วย