สารต้านอนุมูลอิสระ ประโยชน์ต่อสุขภาพและผิวพรรณ

สารต้านอนุมูลอิสระเป็นสารที่ช่วยป้องกันและยับยั้งความเสียหายของเยื่อหุ้มเซลล์ รวมถึงส่วนอื่น ๆ ของเซลล์ที่เป็นผลมาจากการมีสารอนุมูลอิสระในร่างกายมากเกินไป เมื่อเซลล์เกิดความเสียหายก็อาจเป็นสาเหตุของโรคและความผิดปกติต่าง ๆ ตามมาได้ สารต้านอนุมูลอิสระที่พบได้มากพืชผักผลไม้หลายชนิด รวมทั้งในวิตามินและอาหารเสริมทั้งหลายจึงอาจเป็นทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพและบำรุงผิวพรรณได้ด้วย

2120 สารต้านอนุมูลอิสระ rs (1)

สารต้านอนุมูลอิสระทำงานอย่างไร ?

โดยปกติ สารอนุมูลอิสระจะเกิดขึ้นจากกระบวนการเผาผลาญภายในร่างกายร่วมกับปัจจัยภายนอก โดยสารอนุมูลอิสระนั้นมีโครงสร้างที่ไม่สมดุล และหากสะสมอยู่ในร่างกายปริมาณมากก็อาจทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย ส่วนสารต้านอนุมูลอิสระนั้นมีหน้าที่ปรับโครงสร้างของสารอนุมูลอิสระให้เกิดความสมดุลและเป็นกลาง ซึ่งจะช่วยลดและป้องกันความเสียหายที่เกิดกับเซลล์ ส่งผลให้ร่างกายระบบต่าง ๆ ทำงานได้อย่างเป็นปกติ

ทั้งนี้ มีการศึกษาที่เกี่ยวกับสารต้านอนุมูลอิสระพบว่า สารชนิดนี้มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอย่างหลากหลาย นอกจากนี้ สารต้านอนุมูลอิสระบางชนิดอย่างวิตามินซี วิตามินอี และซีลีเนียม ยังมีคุณสมบัติในการช่วยฟื้นฟูสุขภาพผิวได้อีกด้วย เช่น ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ลดเลือนริ้วรอย หรือช่วยเร่งการซ่อมแซมเซลล์ผิว เป็นต้น

แหล่งอาหารของสารต้านอนุมูลอิสระ

โดยปกติร่างกายมนุษย์สามารถผลิตสารต้านอนุมูลอิสระเองได้ แต่อาจไม่เพียงพอต่อการรักษาสุขภาพที่ดี ดังนั้น การรับประทานอาหารบางชนิดจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีส่วนช่วยลดและชะลอการเสื่อมของเซลล์

โดยอาหารแต่ละอย่างอาจมีสารต้านอนุมูลอิสระหลากหลายชนิดที่แตกต่างกันไป ดังนี้

  • วิตามินเอ มีส่วนช่วยบำรุงสายตา เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและการเจริญเติบโตของกระดูก โดยวิตามินเอนั้นเป็นสารที่พบได้มากในไข่แดง ตับ ผักบุ้ง ผักคะน้า และผักตำลึง
  • เบตาแคโรทีน มีส่วนช่วยลดและป้องกันความเสียหายจากอาการไวต่อแสงแดดในผู้ที่เป็นโรคเลือด หรือโรคอื่น ๆ ที่มีอาการไวต่อแสง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง รวมทั้งชะลอการเสื่อมของดวงตาที่มีสาเหตุมาจากอายุที่เพิ่มขึ้น โดยจะพบสารชนิดนี้ได้ในผักผลไม้ที่มีสีส้ม สีเหลือง หรือสีแดง เช่น มะม่วงสุก ฟักทอง แครอท แคนตาลูป มะละกอสุก เป็นต้น
  • วิตามินซี ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ชะลอการเกิดริ้วรอย อาจช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดและโรคมะเร็ง โดยวิตามินซีนั้นจะพบมากในส้ม ฝรั่ง สับปะรด มะม่วง และผักปวยเล้ง
  • วิตามินอี เป็นสารอาหารที่สำคัญต่อดวงตา การมองเห็น ระบบประสาท รวมทั้งระบบสืบพันธุ์ นอกจากนี้ วิตามินอียังทำให้เลือด สมอง และผิวหนังมีสุขภาพดีได้อีกด้วย โดยสารชนิดนี้พบได้มากในน้ำมันพืช ถั่ว และเมล็ดพืช
  • ไลโคปีน อาจช่วยป้องกันการเกิดเนื้องอกบางชนิด ช่วยบำรุงหัวใจ และปกป้องผิวหนังจากแสงแดด พบมากในผักผลไม้ที่มีสีแดง เช่น มะเขือเทศ แตงโม ฝรั่งไส้แดง เป็นต้น
  • ซีลีเนียม มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย และยังมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้ตามปกติ นอกจากนี้ ซีลีเนียมยังอาจช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจด้วย โดยซีลีเนียมนั้นพบได้มากในเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน อาหารทะเล และเครื่องในสัตว์
  • ฟลาโวนอยด์ อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ โรคหืด และโรคมะเร็ง เป็นต้น นอกจากนี้ สารชนิดนี้อาจช่วยในเรื่องความจำและช่วยให้มีอารมณ์ที่ดีขึ้นอีกด้วย โดยฟลาโวนอยด์นั้นจะพบได้มากในหัวหอม แอปเปิ้ล ชา ชาเขียว ผลไม้ตระกูลส้ม รวมถึงช็อกโกแลตด้วย

อย่างไรก็ตาม คุณประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระล้วนเป็นผลสรุปและความเห็นที่มาจากงานวิจัย โดยอาจปรากฏประสิทธิผลในด้านต่าง ๆ ที่ทดลองมาก น้อย หรือไม่ปรากฏผลเลย ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละคน รวมทั้งประสิทธิภาพในแต่ละด้านอาจขึ้นอยู่กับปริมาณและความต่อเนื่องในการรับประทานอาหารแต่ละชนิดด้วย อีกทั้งจากการศึกษาพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระจากอาหารมีคุณประโยชน์มากกว่าสารต้านอนุมูลอิสระที่ได้จากการบริโภคอาหารเสริม ดังนั้น ผู้บริโภคจึงควรรับประทานผักผลไม้และอาหารอย่างหลากหลายในปริมาณที่เหมาะสมเป็นประจำ เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากสารโภชนาการต่าง ๆ รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระอย่างครบถ้วน และหากต้องการรับประทานอาหารเสริม ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรเสมอ

สารต้านอนุมูลอิสระมีประโยชน์...แล้วมีโทษด้วยหรือไม่ ?

แม้ว่าสารต้านอนุมูลอิสระนั้นจะมีคุณประโยชน์หลายอย่าง แต่หากร่างกายได้รับสารนี้มากเกินไปก็อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการผิดปกติได้ เช่น การได้รับเบตาแคโรทีนปริมาณมากในผู้ที่สูบบุหรี่อาจทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดสูงขึ้น และการได้รับวิตามินอีปริมาณมากอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากและโรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดความผิดปกติจากการได้รับสารต้านอนุมูลอิสระมากเกินไปนั้นมักมาจากการรับประทานอาหารเสริม ส่วนการรับประทานผักผลไม้หรืออาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระนั้น มีความเสี่ยงน้อยมากที่จะก่อให้เกิดโรคหรือความผิดปกติ ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการได้รับสารต้านอนุมูลอิสระปริมาณมากในรูปแบบอาหารเสริม หรือปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคอาหารเสริมใด ๆ เสมอ รวมทั้งผู้ที่ต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ประทินโฉมที่มีวิตามินหรือสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงผิว ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังถึงวิธีการเลือกซื้อและการใช้สารต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับสภาพผิว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นตามมา

นอกจากนั้น ควรหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดด โดยเฉพาะแดดที่ร้อนจ้า การเกิดความเครียด การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากพฤติกรรมเหล่านี้สามารถกระตุ้นกระบวนการของสารอนุมูลอิสระและส่งผลเสียต่อร่างกายได้ โดยควรรักษาสุขภาพร่างกายด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และพักผ่อนอย่างเพียงพออยู่เสมอ เพื่อให้มีสุขภาพที่ดีทั้งภายนอกและภายใน