Doxycycline (ด็อกซีไซคลิน)

Doxycycline (ด็อกซีไซคลิน)

Doxycycline (ด็อกซีไซคลิน) คือยาปฏิชีวนะในกลุ่มเตตราไซคลิน (Tetracycline) โดยมีคุณสมบัติรักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ เช่น สิว การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ การติดเชื้อในลำไส้ใหญ่ ติดเชื้อที่ตา โรคหนองในแท้ โรคหนองในเทียม และโรคเหงือก เป็นต้น

นอกจากนี้ด็อกซีไซคลินยังถูกใช้เพื่อรักษาฝ้า รอยนูน และแผลคล้ายสิวที่เกิดจากโรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย (Rosacea) ได้ รวมถึงยังเป็นหนึ่งในตัวยาที่ใช้ในการป้องกันโรคมาลาเรีย และใช้ในการรักษาโรคแอนแทร็กซ์ รักษาโรคติดเชื้อที่เกิดจากตัวไร เห็บ หรือเหา ด้วยเช่นกัน โดยยาด็อกซีไซคลินเป็นยาที่ต้องใช้ภายใต้คำสั่งของแพทย์เท่านั้น

Doxycycline

เกี่ยวกับยา Doxycycline

กลุ่มยา ยาปฏิชีวนะ (Antibiotic)
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ รักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรีย
กลุ่มผู้ป่วย ผู้ใหญ่ ยกเว้นสตรีมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์และผู้ให้นมบุตร Category D จากการศึกษาในมนุษย์ พบความเสี่ยงทำให้เกิดความผิดปกติต่อทารกในครรภ์ จะใช้ก็ต่อเมื่อพิจารณาแล้วว่า ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อมารดาและยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดต่อทารกในครรภ์ โดยมากมักใช้ในกรณีที่จำเป็นในการช่วยชีวิต หรือใช้รักษาโรคร้ายแรงของมารดา ซึ่งไม่สามารถใช้ยาอื่น ๆ ทดแทนได้  สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้
รูปแบบของยา ยาเม็ด ยาน้ำ

คำเตือนเกี่ยวกับยา Doxycycline

เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา ผู้ป่วยควรระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

  • หลีกเลี่ยงการใช้ยา หากพบว่ามีประวัติแพ้ยาด็อกซีไซคลิน หรือยาปฏิชีวนะในกลุ่มเตตราไซคลีน (Tetracyclines)
  • แจ้งแพทย์ทุกครั้งหากผู้ใช้มีอาการป่วยของโรคตับ โรคไต โรคหอบหืด มีอาการแพ้ซัลไฟต์ มีประวัติความดันภายในกะโหลกศีรษะสูง หรืออยู่ในระหว่างการใช้ยา ยาไอโซเตรทติโนอิน (Isotretinoin) ซึ่งเป็นยารักษาสิว รวมถึงผู้ป่วยที่ใช้ยากันชักด้วย
  • หากเป็นผู้ป่วยที่ใช้ยาดังกล่าวเพื่อรักษาอาการหนองในแท้ ควรเข้ารับการตรวจให้แน่ใจว่าไม่ได้ป่วยเป็นโรคซิฟิลิสหรือโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ เพราะอาจทำให้การรักษาไม่ครอบคลุม
  • ห้ามใช้ยาดังกล่าวกับเด็ก เพราะยาด็อกซีไซคลินจะทำให้ฟันของเด็กอายุต่ำกว่า 8 ปีเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองหรือสีเทาอย่างถาวรได้ หากต้องใช้ ควรใช้ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น เช่น การรักษาโรคแอนแทรกซ์
  • ห้ามใช้ยาด็อกซีไซคลินระหว่างการตั้งครรภ์ เพราะอาจทำให้ทารกในครรภ์มีสีฟันที่ผิดปกติถาวรเมื่อโตขึ้น และควรแจ้งแพทย์ให้ชัดเจนหากเกิดการตั้งครรภ์ในช่วงที่กำลังรักษา
  • ยานี้อาจทำให้ผิวไวต่อแสงและไหม้แดด ควรหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดจัดโดยไม่จำเป็นหรือเป็นเวลานาน สวมแว่นกันแดดและเสื้อผ้าที่มิดชิดป้องกันแสงแดด และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป ก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง

ปริมาณการใช้ยา Doxycycline

ยา Doxycycline มีปริมาณการใช้ที่แตกต่างกันออกไปตามโรคที่ต้องการรักษา และดุลยพินิจของแพทย์ เช่น 

  • รักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรีย รับประทาน 200 มิลลิกรัมในวันแรกโดยรับประทานครั้งเดียว หรือแบ่งเป็นครั้ง ๆ ตามที่แพทย์สั่ง จากนั้นรับประทาน 100 มิลลิกรัม/ครั้ง/วัน ในกรณีติดเชื้อรุนแรง ปริมาณยาจะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการรักษา
  • รักษาโรคเหงือก รับประทาน 20 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ติดต่อกัน 9 เดือน
  • รักษาโรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis) รับประทาน 100 มิลลิกรัม ทุก ๆ 12 ชั่วโมง ติดต่อกัน 7–10 วัน
  • รักษาการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน รับประทาน 100 มิลลิกรัม ทุก ๆ 12 ชั่วโมง ติดต่อกัน 7–10 วัน
  • อาการไข้กลับและการติดเชื้อไข้รากสาดใหญ่ รับประทาน 100 หรือ 200 มิลลิกรัม 1 ครั้ง
  • หนองในแท้ที่ไม่มีอาการแทรกซ้อน รับประทานครั้งละ 100 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ติดต่อกัน 7 วัน หรือรับประทานครั้งแรก 300 มิลลิกรัม แล้วตามด้วยครั้งที่ 2 ด้วยปริมาณที่ใกล้เคียงกัน ห่างกัน 1 ชั่วโมง
  • รักษาหนองในเทียม รับประทาน 100 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ติดต่อกัน 7 วัน
  • รักษาโรคซิฟิลิส รับประทาน 100 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ติดต่อกัน 14 วัน
  • รักษาปากมดลูกอักเสบ(Cervicitis) รับประทาน 100 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ติดต่อกัน 7 วัน
  • รักษาสิว เบื้องต้นรับประทานวันละ 100 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ติดต่อกัน 3–6 สัปดาห์ จนกว่าอาการจะดีขึ้น หากรับประทานเพื่อควบคุมอาการ ควรรับประทาน 50–150 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง
  • รักษาโรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย ใช้วันละ 40 มิลลิกรัม 1 ครั้งตอนเช้าก่อนอาหาร หรือ 1 ชั่วโมงก่อนอาหาร และ 2 ชั่วโมงหลังอาหารเช้า
  • รักษาโรคบิดชนิดมีตัว (Amoebiasis) รับประทาน 100 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้งควบคู่กับยาอะมีไบไซด์ (Amebicides)
  • รักษาอหิวาตกโรค(Cholera) รับประทาน 300 มิลลิกรัม 1 ครั้ง ควบคู่กับสารทดแทนน้ำและเกลือแร่
  • รักษาโรคมาลาเรียชนิดฟาลซิพารัมที่มีการดื้อยาคลอโรคควิน (Chloroquine Resistant Falciparum Malaria Acute Attack) รับประทานวันละ 200 มิลลิกรัม อย่างน้อย 7 วัน ควบคู่กับการใช้ยาควินิน (Quinine) หรือรับประทานหลังจบการรักษาด้วยยาควินิน
  • รักษาและป้องกันโรคแอนแทรกซ์ที่ติดต่อผ่านทางการหายใจ รับประทานวันละ 100 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง รับประทานต่อเนื่องจนกว่าจะครบ 60 วัน และรับประทานควบคู่กับยาต้านเชื้อแบคทีเรียอื่น ๆ ร่วมด้วย
  • ป้องกันโรคมาลาเรียชนิดดื้อยาคลอโรควิน (Chloroquine) รับประทาน 100 มิลลิกรัมทุกวัน ติดต่อกัน 2 ปี

การใช้ยา Doxycycline

การใช้ยา Doxycycline จะต้องอยู่ใต้คำแนะนำของแพทย์เนื่องจากเป็นยาที่มีผลข้างเคียงมาก ห้ามรับประทานยาเกินกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณที่แพทย์สั่ง และควรสังเกตวันหมดอายุที่ฉลากอย่างละเอียด การรับประทานยาด็อกซีไซคลินที่หมดอายุสามารถส่งผลอันตรายต่อไตได้โดยตรง

ทั้งนี้ ยา Doxycycline สามารถรับประทานได้ทั้งก่อนหรือหลังอาหาร หากผู้ป่วยมีอาการระคายเคืองที่กระเพาะอาหาร ควรรับประทานหลังอาหาร นอกจากนี้ ควรรับประทานยาจนกว่าจะหมดแม้อาการจะดีขึ้นแล้ว เพราะหลังจากหายจากอาการต่าง ๆ แล้วจะต้องใช้เวลาอีกช่วงหนึ่งกว่าเชื้อจะถูกกำจัดจนหมด

หากผู้ป่วยมีความจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด ควรแจ้งให้ศัลยแพทย์ทราบ เพราะอาจต้องหยุดรับประทานยา Doxycycline ชั่วคราว สำหรับสตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร ยาด็อกซีไซคลินถือเป็นยาที่ควรหลีกเลี่ยง และควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนได้รับยา เพราะยาดังกล่าวอาจส่งผลต่อฟันของทารกในครรภ์ และสามารถปนเปื้อนกับน้ำนมในช่วงให้นมบุตร ทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟันได้

ปฏิกิริยาระหว่างยา Doxycycline กับยาอื่น 

ยา Doxycycline อาจทำปฏิกิริยากับยาบางชนิด ซึ่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงหรือลดประสิทธิภาพของยาลง เช่น 

  • ยาเรตินอยด์ (Retinoid) ชนิดรับประทาน เช่น อาซิเทรติน (Acitretin) และยาไอโซเตรทติโนอิน (Isotretinoin)
  • ยาละลายลิ่มเลือด เช่น วาฟาริน (Warfarin)
  • ยาต้านอาการชัก เช่น เฟนิโทอิน (Phenytoin) และคาร์บามาซีปีน (Carbamazepine)
  • ยากดภูมิคุ้มกัน เช่น ไซโคลสปอริน (Cyclosporine)
  • ยาบิสมัท ซับซาลิไซเลต (Bismuth Subsalicylate)
  • ยาปฏิชีวนะกลุ่มเพนิซิลลิน (Penicillin)
  • ยาลดกรด ยาระบาย และอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของแมกนีเซียม อลูมิเนียม แคลเซียม ธาตุเหล็ก และสังกะสี
  • ยาคุมกำเนิด เช่น ชนิดรับประทาน ชนิดฉีด แผ่นแปะ และห่วงคุมกำเนิด ซึ่งยา Doxycycline อาจทำให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดลดลง หากต้องการคุมกำเนิดในระหว่างการใช้ยา ควรใช้วิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ ร่วมด้วย

อย่างไรก็ตาม ยา Doxycycline อาจทำปฏิกิริยากับยาอื่นนอกจากที่ระบุข้างต้น จึงควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนเสมอหากใช้ยาหรืออาหารเสริมชนิดใดอยู่ ไม่ควรเริ่มหรือหยุดใช้ยาเอง และไม่ปรับปริมาณการใช้ยาด้วยตนเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Doxycycline

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Doxycycline มีค่อนข้างมาก จึงควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุดหากพบอาการไม่พึงประสงค์ต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกายดังต่อไปนี้

  • ระบบย่อยอาหาร เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย อุจจาระมีสีดำหรือสีคล้ายโคลน ผายลมบ่อย ถ่ายเป็นเลือด ความอยากอาหารลดลง น้ำหนักลดผิดปกติ ตัวเหลือง 
  • ระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะมีสีเข้ม
  • ระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ กลืนอาหารได้ลำบาก
  • หัวใจและหลอดเลือด เช่น เจ็บหน้าอก หรือมีอาการปวดที่หัวใจ วิงเวียนศีรษะ หัวใจเต้นเร็ว มีอาการบวมที่ขาและเท้า
  • ระบบภูมิคุ้มกัน เช่น มีไข้ มีอาการลมพิษ และมีอาการบวมรอบ ๆ ดวงตา ใบหน้า ริมฝีปาก และลิ้น
  • ระบบประสาท เช่น ปวดศีรษะ
  • ผิวหนัง เช่น มีอาการลมพิษ คัน มีผื่นขึ้น มีแผลในปากริมฝีปาก ลิ้น ใบหน้า บริเวณรอบดวงตา คอ มือ ขา เท้า หรืออวัยวะเพศบวมหนาขึ้น มีจุดแดงตามผิวหนัง และผิวไวต่อแดด
  • กระดูกและข้อ เช่น มีอาการปวดและบวมตามข้อต่อ หรือกล้ามเนื้อ
  • ตา เช่น เยื่อบุตาอักเสบ
  • อื่น ๆ เช่น มีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต รู้สึกเหนื่อยมากผิดปกติ

นอกจากนี้ การรับประทานยา ผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่อาจรุนแรงและต้องทำการรักษาอย่างเร่งด่วน หากมีอาการผิตปกติใด ๆ ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้