ถามแพทย์

  • มีก้อนแข็งตรงข้างแก้มกรามล่างด้านขวา เจ็บและปวด เป็นอะไร รักษาอย่างไร

  •  Chanatda Chaithumma
    สมาชิก
    พอดีมีก้อนแข็งตรงข้างแก้มกรามล่างด้านขวา มีอาการเจ็บและปวดอยากทราบว่าเป็นอะไร แล้วต้องรักษายังไง

    สวัสดีค่ะ คุณผู้ใช้งาน,

                   ก้อนแข็งที่อยู่บริเวณกรามล่างด้านขวา อาจเป็น

                   1. ต่อมน้ำเหลืองโต จากการอักเสบติดเชื้อของเนื่อเยื่อต่างๆ ที่อยู่บริเวณศีรษะและลำคอ เช่น เป็นไข้หวัด คออักเสบ ทอนซิลอักเสบ มีเริมที่ริมฝีปาก มีฟันผุ เหงือกอักเสบ เป็นต้น ต่อมน้ำเหลืองที่โตนี้ มักมีอาการเจ็บ และปวดโดยเฉพาะเมื่อกด

                   2. ต่อมน้ำเหลืองอักเสบติดเชื้อจากโรคต่างๆ เช่น 

                         - ติดเชื้อไวรัสเอ็บสไตบาร์ (หรือโรค infectious mononucleosis) มักพบในเด็ก และจะมีไข้ร่วมด้วย รวมถึงมีเจ็บคอ มีฝ้าขาวในคอ ตับม้ามโต ตาเหลือง และมีผื่นที่ผิวหนัง

                        - ติดเชื้อวัณโรคทีต่อมน้ำเหลือง แต่จะมีไข้ มีเบื่ออาหาร น้ำหนักลด

                        - โรคแมวข่วน (cat scratch disease) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่อยู่ในต่อมน้ำลายแมว หากโดนแมวข่วนตามแขน คอ หรือบ่อยๆ อาจเกิดการติดเชื้อได้ ทำให้มีไข้และต่อมน้ำเหลืองที่คอโต 

                 3. ก้อนซีสต์หรือก้อนถุงน้ำ แต่ลักษณะของก้อนเวลาคลำจะนิ่ม ขยับได้เล็กน้อย ไม่เจ็บ ไม่ปวด ยกเว้นมีการอักเสบ ก็อาจทำให้มีอาการเจ็บและปวดได้ 

                 4. เป็นก้อนเนื้องอกธรรมดาของชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง เช่น ก้อนเนื้องอกไขมัน ก้อนเนื้องอกหลอดเลือด เป็นต้น แต่ปกติจะไม่มีมีอาการเจ็บและปวด

                 5. เป็นโรคของต่อมน้ำลายที่อยู่ใต้กราม เช่น ต่อมน้ำลายอักเสบเรื้อรัง นิ่วในต่อมน้ำลาย เนื้องอกต่อมน้ำลาย รวมถึงมะเร็งต่อมน้ำลาย

                 6. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ก้อนมักโตเร็ว มักมีไข้ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ซีดร่วมด้วย

                  หากก้อนเพิ่งเป็นมาไม่นาน ให้ลองสังเกตว่าก่อนหน้านี้มีอาการเจ็บป่วยไม่สบาย เช่น ไข้หวัด คออักเสบ ทอนซิลอักเสบมาก่อนหรือไม่ หรือมีฟันผุ มีเหงือกอักเสบ มีแผลในปากหรือไม่ หากมี ก็น่าจะเป็นต่อมน้ำเหลืองที่โตได้ ซึ่งไม่ได้อันตรายอะไร และไม่จำเป็นต้องทำอะไร ให้สังเกตต่อไปก่อนว่าจะยุบลงหรือไม่ แต่หากไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยอะไรมาก่อน หรือก้อนโตขึ้นเรื่อยๆ หรือมีจำนวนเพิ่มขึ้น หรือมีอาการอื่นๆ ร่วม ที่สำคัญคือมีไข้ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจค่ะ